จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ตลกสังคม เรื่องที่ 13

เรื่อง ตำรวจเมืองนอก

เขียนถึงตำรวจบ้านนอกมาแล้ว ลองอ่านเรื่องของตำรวจเมืองนอกดูบ้างเป็นไง ไม่เบาหรอก
เมื่อผมถูกส่งไปทัศนาจรต่างประเทศ โดยที่ท่านจอมพล สฤษดิ์ ฯ ออกค่าเครื่องบินให้เมื่อปี ๒๕๐๐ นั้น ผมกับเจ้านาย และเพื่อนอีกคนคือ พ.ต.อ. พันศักดิ์ วิเศษภักดี ถูกส่งให้ไปใช้ชีวิตสงบสติอารมณ์อยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ เขาให้ผมลงเครื่องบินที่เจนีวา หาที่พักเอาที่นั่น
เจนีวาเป็นเมืองเปิด ใครจะไปใครจะมาที่สวิสส์ก็ต้องมาลงที่เจนีวานี่แหละเสียเป็นส่วนมาก ที่ไปลงที่ซูริคนั้นมีน้อย เจนีวาจึงเปรียบเสมือนหนึ่งเป็นเมืองนานาชาติ เราจะพบชนชาติต่าง ๆ แทบจะทั่วโลก เดินทางไปมาผ่านนครเจนีวานี้ไม่รู้กี่ชาติกี่ภาษา
ผมเคยถูกคนพม่ามาส่งภาษา ทุงยาหม่าเว้ เอากับผมเข้าให้ก็มี เขานึกว่าผมเป็นพม่า
เจนีวาเป็นแหลมจะงอยของสวิสส์ที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส เขาเรียกว่า สวิสส์โรมองค์ สวิสส์เป็นประเทศที่แบ่งภาคออกเป็นสามภาค สามภาษา เหนือขึ้นไปเป็นสวิสส์เยอรมัน ใช้ภาษาเยอรมัน ทางด้านใต้ติดกับประเทศอิตาลี ก็ใช้ภาษา อิตาเลียน ส่วนกลางใกล้ฝรั่งเศสก็ใช้ภาษาฝรั่งเศส คนสวิสส์ต่างภาคมาเจอกัน พูดกันไม่รู้เรื่องก็มี เขาก็อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลกลางกันได้ ไม่มีปัญหาทางการเมืองอะไร
ที่นั่น ถ้าใครพูดภาษาอังกฤษได้ก็เหมือนคนวิเศษ คนสวิสส์ที่พูดอังกฤษได้ จะต้องแสดงภูมิของเขาต่อหน้าเพื่อนร่วมชาติว่า ข้านี่เหนือชั้นกว่าแก
ตำรวจสวิสส์ก็เหมือนกับตำรวจที่ไหน ๆ ในโลก ตำรวจนี่ไม่รู้มันเป็นยังไง นิสัยให้มันเหมือนกันไปทุกแห่งในโลก ไอ้เรื่องแบมือไขว้หลังแล้วกระดกมือให้ใส่อะไร ๆ ลงไปบนฝ่ามือนั้น ใช้วิธีเดียวกันทั้งหมดในโลก เพราะฉันหันหลังให้ แกเอาอะไรมาใส่มือฉันไม่รู้ เอาใส่กระเป๋า ไม่รู้ว่าเป็นอะไร
ฝรั่งเศสเอาคาสิโนมาตั้งไว้รอบ ๆ เจนีวาไปหมด เพราะความที่เป็นจะงอยเข้าไปในฝรั่งเศส ออกจากเจนีวาไปทางรถยนต์ทางตะวันออก จะเจอกับคาสิโนในเอวิอองของฝรั่งเศส ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ก็จะเจอเอาดีโวนตั้งคาสิโนดักอยู่ ลงตะวันตกเฉียงใต้ก็จะเจอคาสิโนของชาโมนี กับอานเนอซีดักอยู่ ไอ้เมืองหลังนี่คนไทยไม่ค่อยอยากจะไป เพราะชื่อมันไม่เป็นมงคล มันชื่ออานเนอซี พูดเป็นภาษาไทยว่า อานน่ะซี ใครไปเป็นอานกลับมาทุกราย
ไอ้เรื่องคาสิโนนี่ ผมก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลไทยท่านทำยักยันอยู่ทำไม จะตั้งก็ไม่ตั้ง ไม่รู้กระดากอะไรอยู่ มันรายได้เข้าประเทศชัด ๆ ของฝรั่งเศสเขาห้ามไม่ให้คนฝรั่งเศสเข้าไปเล่นเด็ดขาด ผู้ที่เข้าไปต้องมีพาสปอรต์ แล้วเขาจะจดหมายเลขเอาไว้ มาทีหลังก็จำได้ ของเราทำอย่างเขามั่งไม่ได้หรือยังไง
ด่านที่ผ่านเข้าฝรั่งเศสเหมือนกัน เขาไม่เข็มงวด รถมีเบอร์สวิสส์ผ่านเข้าไปเป็นโบกผ่านหมด จะมีก็แต่ขาออกจากสวิสส์ และขาเข้า ที่ทางสวิสส์จะตรวจทุกครั้ง
นอกจากตำรวจตรวจแหลกธรรมดานี่แล้ว เขายังมีตำรวจสาธารณสุขอีกด้วย พวกนี้มีหน้าที่ตรวจตราอาหารที่จะนำเข้าประเทศและพวกพืชต่าง ๆ เห็นไม่ชอบมาพากล พี่แกกักไม่ให้เข้า พวกเราไปอยู่ที่ไหนก็ต้องสั่งอาหารไทยเข้าไป มันอดไม่ได้ เวลาไปรับอาหารที่ส่งมาที ก็ต้องไปอธิบายกันว่าอะไรเป็นอะไร เหมาะ ๆ ทำส่งให้แกกินเสียบ้าง ก็ชอบอกชอบใจกันเป็นพิเศษ ทีนี้อะไร ๆ เข้ามาก็ใช้ได้
อยู่มาวันหนึ่งก็มีเรื่องจนได้ ผมกับพันศักดิ์อยู่บ้านเดียวกัน เราสั่งพวกน้ำปลาแมงดาเข้ามากินกัน ทางกรุเทพ ฯ ก็ส่งมาให้ ทีนี้เขาจะให้มันมีรสมีชาติ ก๊อใส่ตัวแมงดาส่งไปให้ด้วย แช่มาในน้ำปลาเป็นตัว ๆ เลย
ทางเจ้าหน้าที่เขาก็เรียกเราไปรับอาหารที่ส่งมา ทางกรุงเทพ ฯ บอกมาว่าอาหารชุดนั้นมีน้ำปลาแมงดามาด้วย ก็ดีอกดีใจกันจะได้ลิ้มรสน้ำปลาแมงดาให้หนำ พอไปถึงเขาก็จัดของไว้ให้เรียบร้อย และบอกกับเราว่าขาดไปรายการหนึ่ง เสียใจด้วย เขาบอกว่า
“ มันเป็นกลิ่นฉุน ๆ แต่แมงสาบมันตกลงไปตายหลายตัว เลยต้องเททิ้งไปหมด ”

!!




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น